รัสเซียอ้าง ยูเครนใช้อาวุธตะวันตกโจมตีสะพานสำคัญในไครเมีย
นายวลาดิเมียร์ ซัลโด ผู้ว่าการภูมิภาคคอร์ซอนที่รัสเซียแต่งตั้งขึ้นระบุว่า ยูเครนได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกล รุ่นสตอร์ม ชาโดว์ (Storm Shadow) ที่ได้รับจากอังกฤษโจมตีสะพานคู่ขนาน ชอนฮาร์ (Chonhar) ที่เชื่อมโยงจากเมืองเมลิโทโปล ไปยังอ่าวไครเมียเสียหายทั้งสองเส้นเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แต่ไม่ผู้ได้รับอันตราย
โดยสะพานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางที่กองทัพรัสเซียใช้เดินทางเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ต่างๆในภูมิภาคเคอร์ซอนกับภูมิภาคไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นดินแดนของตัวเองตั้งแต่ปี 2014
นาย ซัลโดกล่าวหาว่ายูเครนว่าลงมือก่อเหตุตามคำสั่งจากรัฐบาลอังกฤษ และสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการซ่อมสะพานโดยเร็ว พร้อมขู่จะตอบโต้ด้วยการโจมตีสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างมอลโดวาและโรมาเนีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต
อย่างไรก็ตาม ทางการท้องถิ่นภูมิภาคไครเมียยืนยันว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสะพานนั้นไม่รุนแรงมากแต่น่าจะใช้เวลาซ่อมแซมหลายวัน และยังบอกไม่ได้ว่าจะกลับมาเปิดใช้งานได้เมื่อใด
ขณะที่กองทัพยูเครนระบุว่าเป้าหมายของปฏิบัติการดังกล่าวคือการขัดขวางการส่งกำลังบำรุงของรัสเซียและยืนยันว่าการโจมตีเช่นนี้จะเกิดขึ้นอีก
ขณะที่สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพสหรัฐฯ 2 คนที่ระบุว่าปฏิบัติการรุกกลับของยูเครนประสบความสำเร็จน้อยกว่าที่คาดไว้ ขณะที่กองทัพรัสเซียแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถมากกว่าที่ชาติตะวันตกเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้
โดยทหารรัสเซียได้วางแนวป้องกันการโจมตีอย่างแน่นหนา ทำให้ทหารยูเครนไม่สามารถเจาะทะลุทะลวงเข้าไปได้ อีกทั้งการยิงขีปนาวุธและวางกับระเบิด ยังทำให้ยานหุ้มเกราะยูเครนไม่สามรถเคลื่อนกำลังต่อไปได้
เคียงข้างซากไททานิก สรุปทุกรายละเอียด “โศกนาฏกรรมยานดำน้ำไททัน”
รัสเซียเตรียมนำขีปนาวุธข้ามทวีป “ซาร์มัต” เข้าประจำการ
ยูเครนมีแผนใช้อาวุธจากชาติตะวันตกโจมตีรัสเซีย
อย่างไรก็ตามปฏิบัติการรุกกลับยังเป็นระยะเริ่มต้น ซึ่งสหรัฐฯและชาติพันธมิตรยังมองโลกในแง่ดีว่ายูเครนจะสามารถยึดคืนพื้นที่ต่างๆมาได้ โดยคาดว่าต้องรอจนถึงเดือน ก.ค.นี้เป็นอย่างน้อย จึงจะประเมินสถานการณ์ในภาพรวมที่ชัดเจนกว่านี้ได้
ขณะที่สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อรัสเซียเมื่อวันพุธ โดยพุ่งเป้าไปยังประเทศต่าง ๆ ที่ใช้ช่องโหว่ของมาตรการชุดก่อน ๆ เพื่อทำการค้าขายกับรัสเซีย อันเป็นการสนับสนุนแผนการรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่ดำเนินมาถึง 16 เดือนแล้ว
สำหรับสหภาพยุโรปที่มีสมาชิก 27 ประเทศประกาศมาตรการลงโทษรัสเซียมา 10 ครั้งแล้ว พร้อม ๆ กับทำการอายัดทรัพย์สินและสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่รัสเซียกว่า 1,000 คนเดินทางเข้าในเขตประเทศสมาชิกด้วย
การลงโทษรอบใหม่นี้มีเป้าหมายที่จะทำให้วัสดุและสินค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำสงครามไม่ให้ถูกส่งผ่านระบบการค้าไปถึงมือรัสเซีย โดยยังรักษาระดับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับรัสเซียไว้ให้เป็นปกติคำพูดจาก เว็บสล็อต มาแรงอันดับ 1